สาเหตุแอร์รถไม่เย็น และวิธีแก้ปัญหาให้กลับมาเย็นฉ่ำ

สาเหตุแอร์รถไม่เย็น และวิธีแก้ปัญหาให้กลับมาเย็นฉ่ำ

แอร์ไม่เย็นเกิดจากอะไร? ปัญหาแอร์ไม่เย็นเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ขับขี่หลาย ๆ คนรู้สึกหงุดหงิดไม่น้อย ยิ่งเป็นการเดินทางในวันที่อากาศร้อนหรืออบอ้าว และเชื่อว่าหลายคนต้องการหาคำตอบว่าแอร์ไม่เย็นเกิดจากอะไร? ทำไมปรับแอร์แล้วไม่เย็น? หรือแม้แต่ถ้าเกิดปัญหาแอร์ไม่เย็น แก้ยังไง? ซึ่งสาเหตุก็มีตั้งแต่เรื่องเล็ก ๆ อย่างกรองแอร์สกปรก ไปจนถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในระบบทำความเย็น และปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการรู้จักสาเหตุที่แท้จริง จะช่วยให้คุณหาวิธีแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด และใช้งานแอร์ได้เย็นฉ่ำเหมือนเดิม!


โดยในบทความนี้จะพามาเจาะลึกสาเหตุของแอร์ไม่เย็น เกิดจากอะไร? แอร์ไม่เย็น ปรับยังไง? จำเป็นต้องเปิดแอร์กี่นาทีถึงเย็นฉ่ำ? พร้อมขับขี่ในทุกสภาพอากาศ ไกลแค่ไหนก็ไม่เป็นปัญหา! พร้อมทั้งบอกต่อวิธีดูแลรักษาแอร์รถยนต์ที่เหมาะสม สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและอายุการใช้งาน

แอร์ไม่เย็นเกิดจากอะไร? สาเหตุที่พบบ่อยสำหรับรถยนต์

ทำไมแอร์ถึงไม่เย็นฉ่ำ? แม้ว่าจะเป็นการขับขี่ที่ใกล้หรือไกล แอร์ในรถถือว่าเป็นตัวช่วยที่ขาดไม่ได้! แต่จู่ ๆ ก็แอร์ไม่เย็น ออกแต่ลม รถยนต์กำลังมีปัญหาอะไรเกิดขึ้น? ในวันนี้จะมาไขข้อสงสัยว่าแอร์ไม่เย็นเกิดจากอะไร? พร้อมแนะนำวิธีแก้ไขอย่างตรงจุ

ระบบแอร์มีปัญหา

เมื่อขับรถอยู่ดี ๆ แอร์ไม่เย็น สาเหตุหลัก ๆ ที่พบบ่อยคือระบบแอร์มีปัญหา มักจะพบรอยรั่วซึมตามตู้แอร์ สายท่อแอร์ หรือข้อต่อต่าง ๆ ซึ่งจะส่งผลให้ค่าแรงดันของน้ำยาแอร์ตก โดยสามารถตรวจสอบได้โดยการใช้น้ำผสมสบู่หรือแชมพู นำมาตีให้เป็นฟองแล้วทาตามจุดต่าง ๆ หากพบว่าจุดไหนมีฟองอากาศลอยขึ้นมา บ่งบอกว่าจุดนั้นมีการรั่วซึม แก้ไขได้โดยการขันให้แน่น

น้ำยาแอร์ผิดประเภท

การเลือกใช้น้ำยาแอร์ผิดประเภทด้วยเช่นกัน ซึ่งจะทำให้เกิดความเสียหายและการเสื่อมอายุก่อนกำหนดของระบบแอร์รถยนต์โดยตรง และการใช้น้ำยาแอร์ผิดประเภทสามารถสร้างความเสียหายให้กับเครื่องยนต์ โดยเฉพาะการใช้น้ำยาแอร์ที่ผสมน้ำยาปลอมมา ทำให้ความดันในระบบแอร์รถยนต์เพิ่มมากขึ้นจนไม่สามารถทนต่อแรงดันสูงได้ 

น้ำยาแอร์หมด

อีกหนึ่งสาเหตุที่พบบ่อย คือน้ำยาแอร์หมด มีแต่ลมร้อนออกมาจากช่องแอร์ ซึ่งจะมีวิธีการตรวจสอบน้ำยาแอร์ โดยลองสตาร์ทเครื่องยนต์แล้วเปิดระบบเครื่องปรับอากาศปุ่ม A/C เพื่อให้คอมเพรสเซอร์แอร์ทำงาน และลองสังเกตดูในช่องน้ำยาแอร์ที่อยู่ระหว่างแผงระบายความร้อนด้านหน้ารถ หากมีฟองอากาศเล็ก ๆ สีขาว หมายถึงน้ำยาแอร์กำลังหมด ควรจะรีบเติมน้ำยาแอร์ทันที เพื่อป้องกันปัญหาอื่น ๆ ตามมา

วาล์วแอร์เสื่อมสภาพ

วาล์วแอร์เสื่อมสภาพ ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้แอร์ไม่เย็น หรือเปิดแอร์แล้วมีแต่ลม เนื่องจากชุดวาล์วหรือดรายเออร์เกิดการอุดตัน จนทำให้แรงดันน้ำยาแอร์จากคอมเพรสเซอร์ไม่สามารถไหลเข้าแผงคอยล์เย็นได้เหมือนเดิม และทำให้น้ำยาแอร์ฉีดเข้าคอยล์เย็นไม่พอ

คอยล์ร้อนแอร์ไม่ทำงาน

หากสังเกตว่าเมื่อสตาร์ทรถไว้แล้วแอร์เย็นเฉพาะตอนรถวิ่ง หรือเย็นบ้างไม่เย็นบ้าง อาจมีสาเหตุมาจากคอยล์ร้อนแอร์ไม่ทำงาน หรือไม่สามารถทำงานได้เต็มที่เหมือนเดิม ส่งผลให้ระบบระบายความร้อนไม่สามารถระบายความร้อนออกมาได้ จนทำให้น้ำยาที่ส่งเข้าคอยล์เย็นมีอุณหภูมิสูงขึ้นนั่นเอง

คอมเพรสเซอร์แอร์มีปัญหา

หากพบว่าแอร์รถยนต์ไม่เย็น ต้องเร่งเครื่องถึงจะเย็น เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าคอมเพรสเซอร์แอร์มีปัญหา อาจเกิดขึ้นจากลูกสูบคอมเพรสเซอร์หลวม การอัดน้ำยาแอร์จึงทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพเมื่อเครื่องยนต์ทำงานรอบต่ำ แต่เมื่อเร่งเครื่อง ทำให้ลูกสูบทำงานได้เต็มกำลัง จึงทำให้แอร์เย็นขึ้นมา

สายพานคอมแอร์หย่อน

สายพานคอมแอร์จะทำให้คอมเพรสเซอร์ไม่สามารถฉุดให้มอเตอร์ข้างในหมุนต่อได้อย่างปกติ จึงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่มองข้ามไม่ได้เลย หากมีข้อสงสัยว่าสายพานคอมแอร์หย่อนหรือไม่? สามารถตรวจสอบได้จากการติดเครื่องยนต์แล้วเปิดแอร์ ถ้าพบว่าคอมเพรสเซอร์แอร์มีเสียงดังในระหว่างทำงาน ควรปรับระดับสายพานให้ตึง แต่หากสายพานฉีกขาดควรจะเลือกเปลี่ยนใหม่ทันที

วิธีดูแลรักษาแอร์รถยนต์ ใช้งานได้เต็มอายุการใช้งาน

เมื่อได้รู้แล้วว่าแอร์ไม่เย็นเกิดจากอะไรบ้าง? และวิธีแก้แอร์รถยนต์ไม่เย็นอย่างตรงจุดต้องทำอย่างไร? สิ่งที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน คือการดูแลรักษาแอร์อย่างสม่ำเสมอและเหมาะสม ก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานและทำให้ระบบแอร์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยในวันนี้เราได้รวบรวมวิธีดูแลรักษาแอร์รถยนต์อย่างเหมาะสม ดังนี้


  • ควรปิดแอร์ก่อนสตาร์ทรถ เพื่อไม่ให้คอมแอร์ฉุดกำลังสตาร์ท

  • เมื่อจอดรถไว้กลางแดดจ้า ควรเปิดประตูเพื่อระบายความร้อนภายในรถ ก่อนที่จะเปิดแอร์

  • ทำความสะอาดระบบแอร์เป็นประจำ

  • เปลี่ยนไส้กรองแอร์ทุก 1 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร เพื่อให้ลมแอร์ผ่านได้สะดวก

  • ตั้งอุณหภูมิแอร์ที่เหมาะสม เพราะหากตั้งอุณหภูมิที่เย็นเกินไป จะทำให้คอมแอร์ทำงานหนักตลอดเวลา

  • หมั่นตรวจเช็กระดับของน้ำยาแอร์เป็นประจำ และควรเติมให้ได้ระดับที่เหมาะสมเมื่อเย็นน้อยลง

  • ปิดปุ่ม A/C ก่อนถึงที่หมายประมาณ 5-10 นาที แต่เปิดพัดลมทิ้งไว้ เพื่อไล่ความชื้นจากคอยล์เย็น

  • การขับรถเปิดกระจกบ่อย ๆ จะทำให้ฝุ่นมาอุดในตู้แอร์ได้เร็วขึ้น

  • หลีกเลี่ยงการใช้น้ำหอมหรือการบูรภายในรถ เพราะสารระเหยต่าง ๆ จะไปเกาะและอุดตันในระบบแอร์

บทสรุป

ปัญหาแอร์ไม่เย็นเกิดจากหลายสาเหตุ และเป็นปัญหาที่สร้างความหงุดหงิดใจให้กับผู้ขับขี่หลาย ๆ คนไม่น้อย เพราะในทุกการเดินทาง ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการมีแอร์เย็น ๆ จะช่วยให้การเดินทางเหล่านั้นสบายและราบรื่นมากขึ้น และนอกจากระบบแอร์แล้ว ผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถควรตรวจเช็กสภาพรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ ทั้งยางรถยนต์ ช่วงล่าง และชิ้นส่วนต่าง ๆ ของรถยนต์ ซึ่งในปัจจุบันมีร้านขายยางและศูนย์บริการรถยนต์มากมายที่คุณสามารถเลือกซื้อและปรึกษาเกี่ยวกับรถยนต์ได้อย่างครบวงจร