แบตเตอรี่รถยนต์หมด ทำยังไง? มีวิธีพ่วงแบตรถยนต์ด้วยตัวเองในยามฉุกเฉินหรือไม่? เพราะสถานการณ์ที่รถแบตเตอรี่หมดกลางทาง เป็นฝันร้ายที่ไม่มีใครอยากเจอ โดยเฉพาะมือใหม่หัดขับที่อาจจะยังไม่คุ้นชินกับการขับขี่รถยนต์มากนัก รวมถึงคนที่ใช้รถบ่อย ๆ แต่ก็ละเลยการตรวจเช็กสภาพก่อนออกเดินทาง หรือการเช็กสภาพเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่ หรือแม้แต่ยางรถยนต์ก็ตาม ซึ่งหากพูดถึงการพ่วงแบต ก็เป็นสิ่งที่ผู้ขับขี่ทุกคนควรจะต้องรู้ เมื่อเกิดกรณีฉุกเฉินขึ้นมาก็จะสามารถทำได้อย่างถูกต้อง
โดยในบทความนี้ เราจะพามาเจาะลึกวิธีพ่วงแบตรถยนต์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ขับขี่ทุกคนควรจะรู้ ไม่เว้นแม้แต่มือใหม่หัดขับ จั๊มแบต คืออะไร? พ่วงแบตรถยนต์ ขั้วไหนก่อน? เพราะเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมาก รวมถึงตอบคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการพ่วงแบตเตอรี่ เพื่อทำให้ทุกข้อสงสัยได้รับการไขอย่างกระจ่างมากที่สุด!
พ่วงแบตเตอรี่ หรือจั๊มแบต คืออะไร
การพ่วงแบตเตอรี่ หรือการจั๊มแบต คือ กระบวนการที่จะช่วยให้รถยนต์ที่แบตเตอรี่อ่อน หรือแบตเตอรี่หมดจนไม่สามารถสตาร์ทรถ ให้กลับมาใช้งานได้โดยอาศัยการถ่ายเทกระแสไฟฟ้าชั่วคราว ซึ่งจะได้รับการถ่ายเทกระแสไฟฟ้ามาจากรถยนต์คันอื่นที่มีประจุไฟเต็ม หรือเข้าใจง่าย ๆ คือการขอไฟจากรถคันอื่น เพื่อมาปลุกแบตเตอรี่ของรถให้กลับมาใช้งานได้ชั่วคราว เพื่อให้สามารถขับรถต่อไปเพื่อทำการเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้
ขั้นตอนแรก คือการดับเครื่องยนต์และปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหมด จากนั้นให้นำรถที่นำมาช่วยพ่วงแบตเตอรี่เข้ามาจอดใกล้ ๆ โดยที่จะต้องจอดให้รถทั้งสองคันหันหน้าเข้าหากันและอยู่ในระยะที่สามารถต่อสายพ่วงได้ และเตรียมสายพ่วงแบตหรือที่จั๊มแบตที่ไม่สั้นและไม่ยาวเกินไป เพื่อความสะดวกในการใช้งาน
เปิดฝากระโปรงรถยนต์ของรถยนต์ทั้งสองคัน จากนั้นให้นำสายพ่วงแบตมาต่อพ่วงระหว่างแบตเตอรี่ของทั้งสองคัน โดยจะนำสายพ่วงสีแดงมาต่อเข้ากับขั้วบวกของแบตเตอรี่รถยนต์ที่แบตหมด แล้วนำปลายสีแดงของสายพ่วงอีกด้านหนึ่งไปต่อเข้ากับขั้วบวกแบตเตอรี่ของรถที่นำมาช่วย
จากนั้น ให้นำสายพ่วงสีดำพ่วงเข้ากับขั้วลบของแบตเตอรี่ของรถยนต์คันที่มาช่วย ส่วนอีกด้านหนึ่งของสายพ่วงสีดำให้หนีบไว้ที่ตัวถังหรือบริเวณที่เป็นโลหะของรถยนต์ ซึ่งจะต้องระมัดระวังอย่างมาก เพราะหากนำสายพ่วงสีดำกับขั้วลบของแบตเตอร์ของรถคันที่แบตหมด จะทำให้เกิดอันตรายตามมาได้
เมื่อต่อสายพ่วงทั้งสองสีตามที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้ว ให้ทำการสตาร์ทเครื่องยนต์ของรถยนต์คันที่มาช่วย ซึ่งกระบวนการนี้คือการจั๊มแบต โดยจะต้องสตาร์ททิ้งไว้ประมาณ 3-4 นาที แล้วเร่งเครื่องเบา ๆ เพื่อให้เกิดการถ่ายเทประจุไฟฟ้า แล้วดับเครื่อง
ทำการสตาร์ทเครื่องยนต์ของรถยนต์คันที่แบตหมด แล้วทำการเร่งเครื่องเบา ๆ โดยที่จะต้องสตาร์ทเครื่องทิ้งไว้ประมาณ 1-2 นาที เพื่อดูว่าประจุไฟฟ้าเข้ามาแทนที่แบตเตอรี่เพียงพอแล้วหรือยัง แต่ห้ามสตาร์ทรถทั้งสองคันพร้อมกันโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้เกิดอันตรายตามมาได้
ขั้นตอนสุดท้ายคือการถอดสายพ่วงแบตเตอรี่ โดยจะต้องลำดับการถอดให้ถูกต้อง ได้แก่ เริ่มจากการถอดสายพ่วงสีดำที่หนีบตัวถังรถ ต่อด้วยสายพ่วงสีดำที่อยู่ขั้วลบของแบตเตอรี่ของรถยนต์คันที่มาช่วย จากนั้นให้ถอดสายพ่วงสีแดง โดยเริ่มจากสอดสายสีแดงจากขั้วบวกของรถยนต์คันที่มาช่วย และตามด้วยสายพ่วงสีแดงจากขั้วบวกของแบตเตอรี่ของรถยนต์คันที่แบตหมด เพียงเท่านี้ก็เสร็จสิ้นวิธีการพ่วงแบตรถยนต์แล้ว!
แม้ว่าจะสามารถพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ด้วยตัวเองได้ แต่เชื่อว่าหากนำรถเข้าศูนย์หรืออู่ได้ หรือเรียกช่างผู้เชี่ยวชาญมาทำการจั๊มแบตได้ก็จะปลอดภัยกว่า โดยสามารถค้นหา ‘พ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ ใกล้ฉัน’
โดยปกติแล้ว รถยนต์ที่เป็นเครื่องยนต์เบนซิน และเครื่องยนต์ดีเซลตั้งแต่ขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ไม่ว่าจะเป็น รถกระบะ รถเก๋ง และรถยนต์ทั่วไป สามารถพ่วงแบตเตอรี่ได้ แต่รถยนต์บางประเภท เช่น รถยนต์แบบไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้า ควรเรียกช่างผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ เนื่องจากมีระบบแบตเตอรี่ที่ซับซ้อนกว่า
สายพ่วงแบตเตอรี่ควรมีขนาดที่เหมาะสม โดยปกติแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 2.5-3 เมตร เพื่อที่จะสามารถรองรับกระแสไฟได้มากพอ โดยที่ไม่ทำให้เกิดความร้อนสูงเกินไป และเพื่อความสะดวกในการใช้งาน ซึ่งหากพูดถึงสายพ่วงที่มีคุณภาพก็จะต้องนึกถึงสายที่มีฉนวนหุ้มหนาและปากคีบที่แข็งแรง
ข้อเสียหรือข้อควรระวังหลัก ๆ ของการพ่วงแบตเตอรี่ คือ การพ่วงแบตรถยนต์ผิดขั้ว เนื่องจากจะทำให้ระบบไฟฟ้าเสียหาย, ฟิวส์ขาด, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และอาจจะทำให้แบตเตอรี่เสียหายและเกิดการระเบิดขึ้นมาได้
วิธีพ่วงแบตรถยนต์ เป็นข้อมูลที่ควรรู้สำหรับผู้ขับขี่ทุกคน แม้ว่าจะเป็นมือใหม่หัดขับที่ยังไม่คุ้นเคยกับการขับขี่รถยนต์หรือยังไม่มีประสบการณ์มากนัก ก็จำเป็นต้องรู้วิธีพ่วงแบตรถยนต์เผื่อในกรณีฉุกเฉินที่แบตหมดระหว่างทาง เพื่อให้คุณสามารถขับรถไปต่อได้ หรือขับไปหาช่างเพื่อตรวจสอบและแก้ไขปัญหาแบตเตอรี่ต่อไป
นอกจากแบตเตอรี่แล้ว หากต้องการเปลี่ยนยางรถยนต์ สามารถเลือกซื้อสินค้าเกี่ยวกับรถยนต์ที่มีคุณภาพได้ที่ ‘NV Yangyont’ ร้านขายยางที่มีทั้งการจำหน่ายยางรถยนต์ ล้อแม็ก โช๊คสตรัท สปริงโหลด และชิ้นส่วนอื่น ๆ พร้อมคำแนะนำและคำปรึกษาจากช่างผู้เชี่ยวชาญอย่างครบวงจร เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยมากที่สุด!