เติมลมยางรถกระบะให้เหมาะสม เป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าของรถไม่ควรมองข้ามโดยเด็ดขาด เพราะไม่ใช่แค่เติมให้แข็ง แต่ก็จะต้องเติมลมยางรถกระบะ รวมถึงรถประเภทอื่น ๆ ให้ถูกต้องในระดับ PSI ที่เหมาะสม เพราะเป็นการเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ ป้องกันยางรถยนต์ระเบิด ช่วยให้ควบคุมรถได้มั่นคง อีกทั้งยังช่วย ลดการสิ้นเปลืองน้ำมัน และ ยืดอายุการใช้งานของยาง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในบทความนี้ จะพาทุกคนมาดูว่าระดับที่เหมาะสมในการเติมลมยางรถกระบะคือเท่าไหร่? ทำไมควรเติมลมให้พอดี? เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัย อุ่นใจในทุกการเดินทาง!
โดยปกติแล้ว การใช้งานรถกระบะ มักจะเป็นการใช้งานที่ค่อนข้างหนัก หรือระยะทางไกลกว่ารถอื่น ๆ การเติมลมยางรถกระบะให้พอดีและเหมาะสมจึงมีความสำคัญมาก ซึ่งค่าลมยางรถกระบะที่เหมาะสมสำหรับการเติมลมยางรถกระบะ สามารถแบ่งได้ตามลักษณะการใช้งาน ดังนี้
รถกระบะใช้งานทั่วไป (ไม่บรรทุกหนัก) ควรเติมลมยางประมาณ 30-35 PSI
รถกระบะบรรทุกของปานกลาง ควรเติมลมยางประมาณ 35-40 PSI
รถกระบะบรรทุกหนัก (ขนส่งสินค้า/ใช้ในงานพาณิชย์) ควรเติมลมยางประมาณ 40-50 PSI
การเติมลมยางรถกระบะให้เหมาะสม ไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องของความปลอดภัยของผู้ขับขี่และผู้ร่วมใช้รถใช้ถนนเท่านั้น แต่ยังมีส่วนช่วยในเรื่องการประหยัดค่าน้ำมันและยืดอายุการใช้งานของยางได้อีกด้วย เพราะเมื่อลมยางอยู่ในระดับที่เหมาะสม แรงเสียดทานระหว่างยางกับพื้นถนนจะลดลง ส่งผลให้เครื่องยนต์ไม่ต้องแบกรับภาระเกินจำเป็น ช่วยลดการใช้พลังงาน พร้อมทั้งลดการสึกหรอของหน้ายางรถยนต์ ทำให้ขับขี่ได้อย่างมั่นใจและคุ้มค่าทุกการเดินทาง
หากมีการเติมลมยางรถกระบะที่มากหรือน้อยเกินไป ก็จะส่งผลกระทบและมีความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายต่อยางรถยนต์ รวมถึงความปลอดภัยในการขับขี่ เนื่องจากการเติมลมยางที่มากเกินไปจะส่งผลทำให้ดอกยางสึกไวขึ้น การยึดเกาะถนนและความนุ่มนวลในการขับขี่ลดลง ยิ่งไปกว่านั้น จะทำให้การควบคุมรถยากขึ้นได้ด้วยเช่นกัน ส่วนการเติมลมยางที่อ่อนเกินไปจะส่งผลทำให้การบังคับหรือหมุนพวงมาลัยยากขึ้น และสิ้นเปลืองน้ำมัน เนื่องจากมีแรงเสียดทานมากกว่าปกติ
หากต้องการทราบว่าคุณเติมลมยางรถกระบะถูกต้องและเหมาะสมหรือไม่? สามารถสังเกตได้จากอาการเบื้องต้นที่เกิดขึ้นในระหว่างการขับขี่ ซึ่งจะสามารถสังเกตได้จากทั้งการควบคุมรถ สังเกตจากเสียง และสังเกตจากหน้ายาง โดยมีรายละเอียด ดังนี้
สังเกตจากการควบคุมรถในขณะขับขี่ ซึ่งจะรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าพวงมาลัยหนัก ต้องใช้แรงมากขึ้น และรถส่ายเมื่อเข้าโค้งหรือเปลี่ยนเลน รวมถึงการเบรกที่ไม่มีประสิทธิภาพเหมือนเดิม เบรกไม่ค่อยอยู่
สังเกตจากเสียงของรถ หากพบว่ามีเสียงหอน โดยเฉพาะเมื่อความเร็วเพิ่มขึ้น เป็นสัญญาณว่าลมยางอ่อนเกินไป ส่งผลให้หน้ายางเสียดสีกับพื้นถนนมากกว่าปกติ
สังเกตจากหน้ายางรถ โดยที่หน้ายางตรงกลางจะสึกหรอมากกว่าตรงขอบยาง เป็นผลมาจากลมยางที่มากเกินไป และหากพบว่าหน้ายางตรงขอบสึกมากกว่าตรงกลาง เป็นผลมาจากลมยางที่น้อยเกินไป
การเติมลมยางรถกระบะให้พอดีและเหมาะสมตามระดับ PSI ไม่ใช่แค่เรื่องเล็ก ๆ แต่มีผลอย่างมากต่อความปลอดภัยในการขับขี่บนท้องถนน เนื่องจากจะช่วยเรื่องความสามารถในการยึดเกาะถนนดีขึ้น ลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ และช่วยประหยัดน้ำมัน ซึ่งเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาในระยะยาว ดังนั้น การใส่ใจเรื่องลมยางจึงเปรียบเสมือนการดูแลหัวใจของรถ ที่ช่วยให้สมรรถนะโดยรวมทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และปลอดภัยในทุกเส้นทาง!
สำหรับใครที่ต้องการเปลี่ยนยางรถยนต์ อะไหล่และอุปกรณ์รถยนต์ที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน รวมถึงคำแนะนำเกี่ยวกับรถยนต์อย่างครบวงจร เลือกซื้อได้ที่ ‘NVYangyont’ ร้านขายยางที่ไม่ได้มีแค่ยางรถยนต์ แต่มีการจำหน่ายอะไหล่และอุปกรณ์เสริมสำหรับรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็น ยางรถยนต์ ล้อแม็ก โช๊คสตรัท สปริงโหลด รวมถึงอุปกรณ์เสริมรถยนต์อื่น ๆ มากมาย!