คอยล์จุดระเบิด เป็นชิ้นส่วนรถยนต์ที่หลาย ๆ คนอาจไม่คุ้นเคยสักเท่าไหร่ แต่กลับเป็นชิ้นส่วนที่มีบทบาทสำคัญอย่างมากสำหรับการทำงานของระบบจุดระเบิด ซึ่งเป็นระบบของรถยนต์ที่มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าระบบช่วงล่าง ระบบเครื่องยนต์ และระบบอื่น ๆ ที่จะช่วยให้การขับเคลื่อนรถยนต์เป็นไปอย่างปลอดภัย เพราะหากชิ้นส่วนนี้มีความเสียหาย แน่นอนว่าจะตามมาด้วยอาการผิดปกติของรถหลากหลายอย่างเลยทีเดียว
โดยในบทความนี้จะพามาเจาะลึกชิ้นส่วนสำคัญของรถยนต์ คอยล์จุดระเบิด คืออะไร? และมีข้อมูลอะไรบ้างที่ควรรู้ เพื่อที่จะได้รับมือและแก้ไขได้ทันเวลา! ก่อนที่เครื่องยนต์จะเสีย และส่งผลกระทบต่อการขับขี่บนท้องถนน
คอยล์จุดระเบิด คือ หนึ่งในชิ้นส่วนของระบบจุดระเบิดรถยนต์ที่จะคอยเปลี่ยนไฟฟ้าจากแบตเตอรี่รถยนต์ที่มีแรงดันต่ำให้เป็นไฟฟ้าแรงสูง จากนั้นจะส่งไปยังหัวเทียนเพื่อทำให้เกิดการเผาไหม้ในห้องเครื่อง ซึ่งเป็นกระบวนการที่จะทำให้เครื่องยนต์สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพมากที่สุด! โดยปกติแล้วคอยล์จุดระเบิดมีอายุการใช้งานประมาณ 130,000-160,000 กิโลเมตร
อย่างที่ทราบกันแล้วว่าคอยล์จุดระเบิดเป็นส่วนประกอบที่สำคัญในการใช้งานรถยนต์ แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าคอยล์จุดระเบิดเสีย? จะมีสัญญาณเตือนหรือวิธีเช็กคอยล์จุดระเบิดอย่างไร จึงจะรู้ได้อย่างชัดเจน? ในบทความนี้ได้รวบรวมสัญญาณเตือนและอาการที่บ่งบอกว่าคอยล์จุดระเบิดกำลังเจอปัญหาแล้ว!
หากสังเกตว่าไฟเตือนเครื่องยนต์ (Check Engine Light) สว่างขึ้นมา มีโอกาสที่คอยล์จุดระเบิดรถยนต์มีปัญหาได้ ซึ่งหากมีไฟเตือนสว่างขึ้นมา ควรจะนำรถเข้าอู่หรือศูนย์ซ่อมเพื่อให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบอย่างละเอียด
อยากรู้ว่าคอยล์จุดระเบิดมีปัญหาหรือไม่? สามารถสังเกตจากอาการของเครื่องยนต์ ไม่ว่าจะเป็น สตาร์ทเครื่องยนต์ติดยาก, รอบเครื่องยนต์ไม่คงที่หรือรอบเดินเบาดับ, เครื่องยนต์เดินสะดุดหรือสั่น, เร่งเครื่องไม่ขึ้น, กระบอกสูบเครื่องยนต์ทำงานผิดพลาด, เร่งเครื่องแล้วไม่ค่อยออกตัว หรือมีเสียงดังผิดปกติ ซึ่งอาจเกิดจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ หรือการจุดระเบิดย้อนกลับ
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเมื่อคอยล์จุดระเบิดรถยนต์มีปัญหา หรือไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ทำให้การจุดระเบิดไม่สมบูรณ์จะส่งผลทำให้การเผาผลาญน้ำมันเพิ่มมากขึ้น หรือก็คือจะทำให้รถกินน้ำมันมากขึ้นนั่นเอง
เมื่อคอยล์จุดระเบิดส่งไฟฟ้าไปยังหัวเทียนได้ไม่เต็มกำลัง หัวเทียนก็ไม่สามารถสร้างประกายไฟได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้เครื่องยนต์สูญเสียกำลังขับเคลื่อน และทำให้เครื่องยนต์ใช้พลังงานเชื้อเพลิงเพิ่มมากขึ้น
การเปลี่ยนคอยล์รถยนต์ สามารถทำเองได้ แต่จะต้องระมัดระวัง และศึกษากระบวนการขั้นตอนในการเปลี่ยนอย่างละเอียดถี่ถ้วน และต้องตรวจสอบให้มั่นใจว่าตรงรุ่นและตรงเบอร์ของคอยล์ รวมถึงตรวจสอบคุณภาพของอะไหล่ที่ใช้ด้วยเช่นกัน แต่หากไม่มั่นใจ ควรจะให้ช่างมืออาชีพเปลี่ยนให้จะดีกว่า
คอยล์จุดระเบิด เป็นส่วนประกอบที่มีความสำคัญ และมีราคาที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับหลาย ๆ ปัจจัย รวมถึงยี่ห้อและรุ่นที่เลือกด้วยเช่นกัน ดังนั้น ก่อนที่จะเลือกซื้อคอยล์รถยนต์ ควรเปรียบเทียบราคาและคุณภาพ เพื่อความคุ้มค่ามากที่สุด
รู้หรือไม่ว่ามีสาเหตุหรือปัจจัยอะไรบ้างที่ส่งผลทำให้คอยล์จุดระเบิดเสียหรือเสื่อมสภาพเร็วขึ้น? ซึ่งมีทั้งระบบไฟฟ้าอ่อน, หัวเทียนเสื่อม, คอยล์คุณภาพต่ำหรือเป็นของปลอม และมีน้ำหรือความชื้นเข้าไปในห้องเครื่อง
โดยปกติแล้ว หากพบว่าคอยล์จุดระเบิดของรถเสียเพียง 1 ลูก สามารถเปลี่ยนเฉพาะลูกนั้นได้ แต่หากว่าลูกอื่น ๆ เคยเสียไปแล้วก่อนนั้น 1-2 ครั้ง อีกไม่นานลูกอื่น ๆ ก็จะเริ่มเสื่อมสภาพตาม ดังนั้น การเลือกเปลี่ยนทั้งชุดก็ถือเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัย และลดความเสี่ยงในขณะขับขี่ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
คอยล์จุดระเบิด คือหนึ่งในอุปกรณ์ที่มีความสำคัญอย่างมากของระบบจุดระเบิดรถยนต์ เพราะเมื่อเกิดความเสียหายขึ้นมาจะส่งผลทำให้เครื่องยนต์มีอาการผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องยนต์เดินสะดุด สตาร์ติดยาก หรือรถเร่งไม่ขึ้น และหากร้ายแรงกว่านั้น อาจทำให้เครื่องดับกลางทางได้! การทำความรู้จักกับชิ้นส่วนดังกล่าวเป็นอย่างดี จะช่วยให้สามารถรับมือและแก้ไขได้ทันเวลา และช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ในระยะยาว
นอกจากระบบต่าง ๆ ของรถยนต์แล้ว การตรวจสอบและหมั่นเช็กอะไหล่รถยนต์อื่น ๆ ก็มีความสำคัญเช่น และหากต้องการเปลี่ยนอะไหล่รถยนต์ สามารถติดต่อสอบถามและรับคำแนะนำเกี่ยวกับรถยนต์อย่างครบวงจรได้ที่ ‘NV Yangyont’ เป็นร้านขายยางที่มีสินค้าคุณภาพสูงมากมายให้เลือกซื้อ!